วันที่ 23 ส.ค. 65 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ. 2565 ระดับประเทศ โดยมี นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คณะกรรมการคัดสรรฯ ผู้ประกอบการ OTOP และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ (กอ.นตผ) ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบดำเนินการคัดสรร สุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP Product Champion) ต่อเนื่องจากการลงทะเบียนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ซึ่งปัจจุบันมียอดการลงทะเบียนทั้งสิ้น จำนวน 95,567 ราย/กลุ่ม 218,209 ผลิตภัณฑ์ โดยการคัดสรรสุดยอด หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย จะดำเนินการเป็นประจำทุก 2 ปี และกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มาแล้วทั้งสิ้น จำนวน 7 ครั้ง คือ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ OTOP ได้มีโอกาสพัฒนาให้มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับแก่บุคคลทั่วไป จนสามารถใช้เป็นแหล่งสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับชุมชน อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีมาตรฐานในระดับสากล

“วันนี้เป็นวันที่มีค่าสำหรับพี่น้องประชาชน เรามีส่วนร่วมในการสร้าง OTOP กว่า 200,000 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งในวันนี้คณะกรรมการนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่การันตีว่าสินค้า OTOP จะถึงมือผู้บริโภคด้วยคุณภาพและมีประสิทธิภาพ การทำงานของคณะกรรมการแต่ละท่านล้วนแต่ได้ใช้ความรู้ความสามารถซึ่งมั่นใจได้ว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับประโยชน์ตามมา งานแต่ละชิ้นที่ได้รับการพิจารณาตัดสินด้วยความใส่ใจ ทั้งยังมีความร่วมมือร่วมแรงใจ จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้มาช่วยกันในวันนี้ ซึ่งเศรษฐกิจของบ้านเราจะต้องขับเคลื่อนไปด้วย 4 กิจกรรม คือ 1.การลงทุนภาครัฐ 2.การส่งออก 3.การลงทุนกับภาคเอกชน และ 4.การบริโภคภายในประเทศ สินค้า OTOP ของเราเกิดอย่างน้อย 2 กิจกรรม คือลงทุนโดยภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนบริโภคสินค้าภายในประเทศ ทั้งยังมีการส่งออกภายนอกอีกด้วย นี่คือผลของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศของเรา และขอขอบคุณทุกหน่วยงาน คณะกรรมการทุกท่าน และกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยวันนี้” รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าว

นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กรมการพัฒนาชุมชน ได้กำหนดดำเนินการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย โดยให้ผู้ประกอบการ จำนวน 1 ราย สามารถส่งผลิตภัณฑ์เข้าคัดสรรฯ ได้ทั้งสิ้น จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ หรือ 3 ชุดผลิตภัณฑ์ ปรากฏว่ามีผู้ผลิต ผู้ประกอบการส่งผลิตภัณฑ์เข้าคัดสรรทั้งสิ้น จำนวน 15,707 ผลิตภัณฑ์ โดยแบ่งออกเป็น ประเภทอาหาร 3,943 ผลิตภัณฑ์ ประเภทเครื่องดื่ม 631 ผลิตภัณฑ์ ประเภทผ้า และเครื่องแต่งกาย 6,404 ผลิตภัณฑ์ประเภทของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก 3,637 ผลิตภัณฑ์ ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 1,091 ผลิตภัณฑ์ โดยกอ.นตผ. ได้เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐ 6 หน่วยงาน ทำหน้าที่ตรวจและให้ค่าคะแนนผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ประเภทอาหาร คณะที่ 1 โดย “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี” และคณะที่ 2 โดย “มหาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ” ประเภทเครื่องดื่ม โดย “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม” ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย โดย “กระทรวงอุตสาหกรรม” ประเภทของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก โดย “กระทรวงพาณิชย์” และประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร โดย “กระทรวงสาธารณสุข”

“การคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2565 กำหนดดำเนินการระหว่างวันที่ 21 – 30 สิงหาคม 2565 ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ก่อนหน้านี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบทั้งด้านช่องทางการตลาดในการจำหน่าย การสร้างรายได้ รวมทั้งการคัดสรร หรือ ติดดาว OTOP ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ดังนั้นการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ในปีนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้ทั้งผู้ผลิตผู้ประกอบการ มีการพัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของตนเองให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีความพร้อมสามารถจะออกสู่ตลาด อีกทั้งยังแข่งขันได้ทั้งภายในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันคณะกรรมการคัดสรร ฯ ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะเป็นผู้พิจารณาให้ค่าคะแนนตามคุณภาพ ตามมาตรฐาน การคัดสรรนี้จะช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์ OTOP ทุกกลุ่มให้มีการพัฒนาสอดคล้องกับยุคสมัย และทำให้เอกลักษณ์จากท้องถิ่นต่างๆ ของประเทศไทย มีชื่อเสียงในระดับสากล รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานราก นำพาอาชีพ รายได้ และความสุขมาสู่ทุกชุมชน” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว