กมธ.สาธารณสุข รัฐสภา ชวนกินเจเพื่อสุขภาพ หนุน สสส.รณรงค์ “ลดโซเดียม ลดเค็ม ลดโรค” เข้มข้น พร้อมจับมือร่วมกันขับเคลื่อนให้คนไทยมีสุขภาพดีห่างไกลโรคต่างๆอย่างยั่งยืน

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเทศกาลกินเจระหว่างวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 นี้ว่า การทานเจโดยไม่ทานเนื้อสัตว์เป็นสิ่งที่ดีและมีผลดีต่อสุขภาพ ตนเองก็ไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่มากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งตอนแรกเคร่งครัดมาก ไม่ทานเนื้อทุกชนิดเลย เลือกทานแต่ผักเป็นหลัก แต่ความจริงร่างกายคนเรานั้นต้องการโปรตีนด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องเสริมโปรตีนจากถั่วเหลืองแทนบ้าง อย่างไรก็ตามช่วงหลังๆได้ผ่อนคลายความเคร่งครัดลงมาบ้าง โดยไม่รับประทานสัตว์ใหญ่ เน้นเลือกรับประทานปลา กุ้ง ปูแทน แต่ก็ยังคงรับประทานผักเป็นอาหารหลักสำคัญเหมือนเดิม อยากให้คนที่ทานเจเลือกทานอาหารที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ คือ ไม่ทานหวาน มัน เค็มมากเกินไป หลีกเลี่ยงการเติมสารปรุงรส พวกน้ำปลา ซอส ซีอิ๊ว หรือไม่เติมสารที่มีความเค็มเยอะๆ โดยเฉพาะโซเดียมหากทานมากเกินไปจะเป็นผลเสียต่อร่างกาย จะทำให้เกิดความดันสูงได้ ทำให้ไตต้องทำงานหนัก เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สำหรับตนเองนั้นทานอาหารจะไม่เติมน้ำปลา ไม่เติมซีอิ๊ว ไม่เติมซอส หรือเครื่องปรุงอะไรเลย

พร้อมกันนี้ตนเองสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่รณรงค์การรับประทานอาหารให้ลดโซเดียม ลดหวาน ลดมัน ลดเค็มอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นเรื่องดี เพื่อให้คนไทยระมัดระวังการทานเค็มมากเกินไปจะทำให้เกิดความเสี่ยงโรคต่างๆ ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร พร้อมประสานกับ สสส.เพื่อร่วมกันทำงานในการขับเคลื่อนให้คนไทยมีสุขภาพดีและห่างไกลจากโรคต่างๆอย่างยั่งยืน

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลกิเจซึ่งได้รับความนิยมทั้งจากชาวจีนและชาวไทยมาก ในแต่ละปีมีผู้เข้าร่วมเทศกาลกิเจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้จิตใจของคนกินเจนั้นอ่อนโยน ไม่เบียดเบียนทำร้ายชีวิตสัตว์ แต่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆในแต่ละปี นอกเหนือจากทำให้จิตใจคนกินเจอ่อนโยนแล้วยังรู้สึกอิ่มบุญที่ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ อย่างไรก็ตามเป็นห่วงการปรุงอาหารช่วงเทศกาลกินเจที่มีการปรุงรสหวาน มัน เค็มมากเกินไปเพื่อให้อาหารเจน่ารับประทานซึ่งส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นเหตุให้เกิดโรคระบบทางเดินโลหิต เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคไต จึงอยากวิงวอนให้ระมัดระวังอย่าปรุงรสจัดมากเกินไป เห็นด้วยที่ สสส.รณรงค์อย่างต่อเนื่องให้ลดทานอาหารหวาน มัน เค็ม เพราะเป็นที่มาของโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรค NCDs ซึ่งการป้องกันโรคดีกว่าการรักษาโรค

ทั้งนี้คณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภาก็มีคณะอนุส่งเสริมป้องกันโรคที่รณรงค์ไม่ให้ปรุงอาหารรสจัดมากเกินไป ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันโรค และยังช่วยผู้ป่วยโรค NCDs ไม่ให้มีอาการรุนแรงของโรคด้วย นอกจากนี้ยังอยากให้ผู้สูงวัยควรแสวงหาความสุขทางด้านจิตใจ มั่นออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเดินในชีวิตประจำวันมากๆจะมีประโยชน์มากต่อสุขภาพร่างกายและช่วยลดการป่วยโรคต่างๆได้ ขอให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เลือกทานผักหรือผลไม้ และขอให้ทำจิตใจให้อ่อนโยน ไม่มีอารมณ์โลภโกรธหลงที่รุนแรงจะเป็นแนวทางช่วยทำให้มีสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ที่รัฐสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดกิจกรรมสื่อสารรณรงค์ “กินเจ ลดโซเดียม : อิ่มบุญ อิ่มใจ ห่างไกลโรค” ช่วงเทศกาลกินเจระหว่างวันที่ 15 – 23 ตุลาคม 2566 ณ บริเวณชั้น 1 อาคารรัฐสภา เพื่อรณรงค์ให้ สมาชิกรัฐสภา (สส.-สว.) ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐสภา ตลอดจนสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้รับรู้และเข้าใจการรับประทานโซเดียม หวาน มัน เค็ม มากเกินไปจะส่งผลร้ายต่อร่างกายอย่างไร ตลอดจนรับรู้และเข้าใจ โซเดียมแฝงคืออะไร , โซเดียมมาจากไหน , ปริมาณโซเดียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวันควรมีเท่าไหร่ , เข้าใจช่วงวัยที่ควรได้รับโซเดียม , วิธีลดการบริโภคโซเดียมเพื่อสุขภาพที่ดี , 8 TRICK สั่งอาหาร Delivery Heathy เราทำได้ , ประโยชน์ของการกินผัก ผลไม้ ถั่วและธัญพืช , รู้จัก “รักษาไต” กันไว้ดีกว่าแก้ , พฤติกรรมการกินที่ก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจ , ปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุงรสเติมน้อยก็อร่อยได้ พร้อมร่วมทำแบบประเมินความรู้ความเข้าใจโซเดียมมีผลต่อสุขภาพเราอย่างไร โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา นส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา ตลอดจนข้าราชการรัฐสภาและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อกินเจอิ่มบุญและสุขภาพดีด้วย