เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 65 เวลา 11.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อม ด้วยนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลบ้านควน อำเภอหลังสวน ณ อาคารพอเพียง องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านควน ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสังคมประจำตำบลแห่งแรกของจังหวัดชุมพร เพื่อให้บริการอย่างครอบคลุมตามภารกิจกระทรวง พม. สำหรับการช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมและได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ด้วยการให้บริการด้านสิทธิและสวัสดิการสังคม ทั้งด้านการสงเคราะห์ คุ้มครอง พัฒนา ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสังคม ในพื้นที่ระดับตำบลแบบครบวงจรอย่างเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว (One Stop Service) เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ เพราะปัญหาของประชาชน รอไม่ได้ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในพื้นที่ อีกทั้งได้มอบสวัสดิการสังคมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ 1) งบประมาณสำหรับการซ่อมสร้างบ้านผู้สูงอายุในอำเภอสวีและหลังสวน รวม 5 หลัง เป็นเงิน 112,500 บาท 2) งบประมาณสำหรับการซ่อมสร้างบ้านคนพิการในอำเภอปะทิวและท่าแซะ รวม 2 หลัง เป็นเงิน 80,000 บาท 3) เงินสงเคราะห์สำหรับครอบครัวผู้สูงอายุ 16 ราย เป็นเงิน 32,000 บาท ครอบครัวคนไร้ที่พึ่ง 26 ราย เป็นเงิน 52,000 บาท เด็กในครอบครัวยากจน 4 ราย เป็นเงิน 12,000 บาท และคนพิการ 4 ราย เป็นเงิน 8,000 บาท และ 4) มอบเกียรติบัตร อพม. เข้มแข็ง จำนวน 13 คน นอกจากนี้ ได้รับฟังปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ การพัฒนาการทำงานของสภาเด็กและเยาวชน โรงเรียนผู้สูงอายุ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากผลกระทบของโควิด – 19 และการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ น้ำผึ้งและร่มผ้าปาเต๊ะ เป็นต้น จากนั้น ได้เยี่ยมชมกิจกรรม “ช้อป ชิม นิทรรศการมีชีวิต” จากเครือข่ายศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลบ้านควน อาทิ สภาเด็กและเยาวชน ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ กลุ่มสตรีฝึกอาชีพ ปราชญ์ชาวบ้าน และกองทุนสวัสดิการชุมชน

นายจุติ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้มาเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลบ้านควน ซึ่งเป็นแห่งแรกของจังหวัดชุมพร ที่จะดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เปรียบเสมือนครอบครัวไม่ว่า พ่อแม่ ลูกหลาน ปู่ย่าตายาย ต้องได้รับประโยชน์จากศูนย์นี้ วันนี้เราจะเริ่มปฎิรูปการพัฒนาคุณภาพทุนมนุษย์ของไทย เริ่มตั้งแต่เด็กอายุหนึ่งสัปดาห์ เพราะหลังจากสถานการณ์โควิด – 19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก จะไม่มีคำว่าข้อจำกัด ไม่อย่างนั้นเราจะไปไม่รอด โดยศูนย์นี้ต้องมาช่วยกันทำในเรื่องของผู้ดูแลเด็ก ไม่ใช่แค่มาเฝ้าเด็ก แต่จะต้องมีส่วนในการพัฒนาการของเด็ก ทั้งนิสัย วินัย และโภชนาการอาหาร เพื่อที่จะให้เด็กพร้อมเข้าสู่โรงเรียนอนุบาล โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) จะต้องมาดูแลในเรื่องของคุณภาพเด็ก คือ ผู้ดูแลเด็กนั้นจะต้องเข้ารับการอบรมออนไลน์ จากจิตแพทย์และหมอ เพื่อให้รู้ว่าเด็กมีความคาดหวังและเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ผู้ดูแลเด็กจะได้เข้าใจถึงพฤติกรรมของเด็ก รวมไปถึงเยาวชนที่เรียนหนังสือ ในวันนี้ไม่ใช่แค่เรียนในห้องเรียนเหมือนเดิม และวิธีการเรียนก็ไม่ใช่การท่องจำอีกต่อไป แต่สิ่งที่เด็กจะรับได้มากที่สุดคือ การสอนผ่านดนตรี กีฬา และศิลปะ อีกทั้ง เราต้องกลับมาคิดใหม่ว่า เด็กที่ไม่สามารถไปโรงเรียน ไม่ว่าเพราะสาเหตุจากเรื่องรายได้ โอกาส หรือความไม่สะดวก แต่เด็กเหล่านั้นจะต้องได้เรียนทางใดทางหนึ่ง ดังนั้น ตนดีใจที่ได้เห็นว่าศูนย์นี้ เป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรแล้ว ขณะเดียวกันกระทรวง พม. กำลังทำเรื่องห้องสมุดออนไลน์ โดยการอ่านผ่านจอทีวี ซึ่งหนังสือนำมาจากสภานักเรียนและครูที่โรงเรียนจะทำหน้าที่เป็นบรรณารักษ์ของห้องสมุดดิจิตอล นอกจากนี้ เราต้องสอนให้เด็กรุ่นใหม่มีวินัย มารยาท และกล้าแสดงความคิดเห็น แต่ในขณะเดียวกันต้องเคารพกติกาทางสังคม

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง พม. ได้ทำ MOU กับหลายหน่วยงาน เพื่อที่จะสร้างอาชีพให้กับเยาวชน ผู้สูงอายุ และแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยศูนย์แห่งนี้จะเป็นศูนย์ป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียน และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ฉะนั้น หากใครมีปัญหา ขอให้มาหากรรมการศูนย์ฯ หากเรื่องใดจังหวัดไม่สามารถจัดการได้ก็จะส่งเรื่องไปยังส่วนกลาง โดยสำนักนายกรัฐมนตรีจะติดตามเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน และจะมีการติดตามเรื่องให้จนถึงที่สุด ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความสุข โดยศูนย์นี้จะนี้เป็นพาหนะให้ทุกคนในชุมชนไปสู่ความฝันได้ แม้ไม่ง่าย ไม่รวดเร็ว เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลาแต่อย่าท้อ เพราะเราตั้งใจตั้งศูนย์ฯ ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือทุกคนและตั้งใจจะทำให้ครบทุกตำบลในประเทศไทยเพื่อประชาชนของเรา