“พิ้งค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันหญิงดาวรุ่งทีมชาติไทย พร้อมลุยศึกโอดิชา มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ 100 ที่ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 10 -15 ธ.ค.นี้ ตั้งเป้าทำผลงานได้ดีที่สุด พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมามีอาการเจ็บเข่ารบกวนทำให้โชว์ฟอร์มไม่ดีตามที่หวังเอาไว้ ตั้งเป้าปี 2025 จะกลับมาฟิตเต็มที่เพื่อไต่อันดับกลับมาติดท็อป 40 อันดับแรกให้ได้และหวังจะกลับมาติดทีมชาติเพื่อลุยซีเกมส์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ได้จัดงาน ครบรอบ 5 ปี “Striving For Excellence” มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ และร่วมเปิดตัว PRINCE of BONES by Princ HOSPITAL SUVARNABHUMI

“ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม” แนะนำทีมแพทย์ และศักยภาพของศูนย์ฯ โดยมี นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการและรองประธานคณะกรรมการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล ประธาน ในพิธี และ “พิ้งค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันหญิงดาวรุ่งทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เยาวชนโลกปี 2023 ได้ร่วมงานอีกด้วย

ด้าน “พิ้งค์” พิชฌามลณ์ เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับรพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ที่ได้ก่อตั้งเป็นปีที่ 5 แล้ว และขอบคุณทางรพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเสมอมาตลอด 2-3 ปีนี้”

นอกจากนี้ พิ้งค์ ได้เผยถึงสภาพร่างกายว่า “ตอนนี้เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าซ้ายเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นรุนแรงมาก แต่ก็ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่ทำได้ไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา ส่วนการแข่งขันในปีนี้ก็จะไปแข่งขันในศึกโอดิชา มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ 100 ในวันที่ 10 -15 ธ.ค.67 นี้ และตั้งเป้าจะทำผลงานออกมาให้ที่สุด ส่วนในปี 2025 วางแผนไว้ตั้งใจทำร่างกายกลับมาให้ฟิตสมบูรณ์และอยู่จุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง สำหรับการแข่งขันในระดับเวิลด์ทัวร์ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่บรรุลเป้าหมายเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเล่นงานมาตลอด แล้วก็พร้อมตั้งเป้าหมายกลับไปอยู่ 40 อันดับแรกของโลกให้ได้อีกครั้ง และคาดหวังไว้ว่าจะติดทีมไปลุยในศึกซีเกมส์ 2025 ในบ้านให้ได้อีกครั้ง”

ขณะที่ นพ.ณัฐพล ศิริโภคารัตนา ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ เวชศาสตร์การกีฬา ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เผยถึงอาการบาดเจ็บของ “น้องพิ้งค์” ว่า “อการบาดเจ็บของ “น้องพิงค์” เป็นเรื่องธรรมดาของนักกีฬาอาชีพ เพราะเนื่องจากการแข่งขันกีฬาแบดมินตันมีการเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา ทั้งการบิด เอี้ยวตัวต่างๆ จะทำให้สร้างภาระต่อร่างกายบริเวณเส้นเอ็นเราอยู่แล้ว แต่เรายืดเส้นและวอร์มก่อนแข่งได้ดีพอทำให้มีอาการบาดเจ็บหรือฉีดขาดต่างๆ ลดลงไป แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังก็คือ การฝึกซ้อมต่างๆ หากซ้อมเยอะเกินไปจนร่างกายเกินที่จะรับไหวก็จะเสี่ยงให้เกิดอาการบาดเจ็บได้”