บริษัท คว็อลลิตี้ แล็บ จำกัด เปิดตัวแบรนด์ Be HANA สกินแคร์พรีเมียมน้องใหม่ในตลาด เจาะกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญในการดูแลตัวเอง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย จนถึง เจน ผู้ใหญ่ เผยตลาดสกินแคร์ไทยแข่งขันสูง ชูจุดเด่นมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ผลิตมากว่า 40 ปี เข้าใจและเชี่ยวชาญการเลือกใช้สารสกัดต่างๆเป็นอย่างดี มั่นใจผลิตสินค้าคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ ขวบปีแรกมุ่งทำการตลาด สร้างการรับรู้ในแบรนด์ ขยายช่องทางการขายจากออนไลน์สู่การออฟไลน์ ควบคู่เปิดตลาดออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งเป้ายอดขายปีแรกสู่ระดับ 50 ล้านบาท
นางสาวเขมิกา ฮุนตระกูล Assistant Vice President บริษัท คว็อลลิตี้ แล็บ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ Be HANA เผยว่า เดิมครอบครัวประกอบธุรกิจโรงงานผลิตสกินแคร์ป้อนให้กับแบรนด์ต่าง ๆ และสั่งสมประสบการณ์มานานกว่า 40 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญในการเลือกสารสกัดที่มีคุณภาพ ในปี 2565 จึงได้ตัดสินใจสร้างแบรนด์สกินแคร์พรีเมี่ยมของตนเอง ภายใต้แบรนด์ Be HANA โดยเริ่มต้นการขายในช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี ปีนี้จึงเริ่มทำการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ และจะเพิ่มช่องการขายแบบออฟไลน์ ตลอดจนช่องทางการขายแบบออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้านด้วย
“จุดเริ่มต้นของการทำ Be HANA เนื่องจากเราเป็นโรงงานผู้ผลิตมากว่า 40 ปี มีมาตรฐาน GMP ISO ต่างๆ ตามระบบโรงงานผู้ผลิตที่ได้มาตราฐานการรองรับ แต่ช่วงที่ผ่านมา การแข่งขันหลายอย่างสูงมาก ประกอบกับทางบริษัทเองอยากสร้างแบรนด์ที่มีคุณภาพ ใช้สารสกัดเกรดพรีเมี่ยมใส่ลงในตัวสินค้าได้แบบเต็มที่ เพื่อให้ผู้ใช้หรือลูกค้าได้เห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง เนื่องจากเราผลิตเอง จึงสามารถควบคุมคุณภาพและคัดสรรสารสกัดพรีเมี่ยม และอยากนำเสนอสินค้าไทยที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด ซึ่ง Be HANA เริ่มจากการขายสินค้าในช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ เราก็จะมีช่องทางออฟไลน์กับ Beauty Shop เบื้องต้นน่าจะทั้งหมด 19 สาขาทั่วประเทศ ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ รวมถึงกระจายสินค้าเข้าสู่ประเทศอื่นเช่น ประเทศลาว กัมพูชา และจีน ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร คาดว่าจะเริ่มต้นดำเนินการได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ”
“สำหรับสินค้าปัจจุบันเราเปิดตัวด้วย Facial Skin Care พื้นฐานสำหรับบำรุงผิว คือตัว Be HANA X 5Plus Day Cream & Night Cream สารสกัดหลัก คือ ตัวดอกซากุระจากเกาะเจจุประเทศเกาหลีใต้ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง, whitening complex ซึ่งมี 3 ประสิทธิภาพหลัก คือ Arbutin ,Glutathione, Vitamin C, กลุ่ม UV Filter คือ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide, Hyaluronic Acid และยังมี Niacinamide ถ้าได้ใช้คู่กับตัว Pure Hya Serum ไม่ว่าจะเป็นสูตร Jeju Sakura หรือ สูตร Centella ก็จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น” นางสาวเขมิกา กล่าว
ปัจจุบัน ตลาดสกินแคร์ในประเทศไทย มีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์มากว่า 40 ปี เข้าใจและเชี่ยวชาญในการเลือกใช้สารสกัดต่าง ๆ เป็นอย่างดี จึงมั่นใจว่าสินค้าของบริษัทมีคุณภาพ ประกอบกับอยู่ในราคาที่เข้าถึงได้ โดยราคาสินค้าเริ่มต้นตั้งแต่ 249-1,350 บาท กลุ่มเป้าหมาย คือ ลูกค้าที่ให้ความสำคัญในการดูแลตัวเอง ตั้งแต่วัยมหาวิทยาลัยถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งหลังการเปิดตัว จะเร่งสร้างการรับรู้ในแบรนด์ โดยการจัดโปรโมชันต่าง ๆ ซึ่งในช่วงนี้ จะเป็นโปรโมชันซื้อ Be HANA X 5Plus Day Cream & Night Cream จากราคา 2,700 บาท ลดราคาเหลือ 890 บาท จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
“อยากให้คนไทยเปิดใจรับแบรนด์ Be HANA แม้จะเป็นแบรนด์ของคนไทย แต่เรามีความมั่นใจในเรื่องคุณภาพของสินค้า เพราะมีความเชี่ยวชาญในการเลือกสารสกัดต่าง ๆ เป็นอย่างดี” นางสาวเขมิกา กล่าว
นางสาวเขมิกา ยังกล่าวปิดท้ายด้วยว่า เร็ว ๆ นี้ บริษัทจะมีการเปิดตัวสินค้าเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลดฝ้า กระ, sunscreen และ body skin care โดยในปีแรกหลังการเปิดตัว บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมเอาไว้ที่ 50 ล้านบาท และภายใน 3 ปี จะก้าวไปเป็น Top list ของแบรนด์สกินแคร์ในใจลูกค้าให้ได้