เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ณ สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ (แห่งเก่า) ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวกับ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ถึงความร่วมมือระหว่าง สพฉ. และ อบจ.กระบี่ ในการจัดการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 10 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2569 ณ จังหวัดกระบี่ พร้อมกันนี้ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การดำเนินงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดกระบี่ ระหว่าง สพฉ. กับ อบจ.กระบี่ และเปิดหน่วยปฏิบัติการอำนวยการระดับพื้นฐาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ (ศูนย์นเรนทร อบจ.กระบี่) โดยมีนายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดหน่วยฯ

ในความร่วมมือครั้งนี้ ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการ สพฉ. ได้กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ เนื่องจากมีความใกล้ชิดผูกพันกับประชาชน ทำให้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหา รวมถึงสามารถบริหารจัดการงบประมาณ เพื่อพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน สามารถเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินได้ ที่ผ่านมา สพฉ. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินในการให้บริการประชาชนแบบบูรณาการร่วมกัน ทั้งในมิติการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นและพื้นที่ และการสร้างเวทีความร่วมมือในระดับประเทศ ด้วยกลไกการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นเวทีวิชาการระดับชาติที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาวิชาการและองค์ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติ และผู้เกี่ยวข้อง ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และยังเป็นเวทีในการประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานและบุคคลที่มีผลงานดีเด่นด้านการแพทย์ฉุกเฉินอีกด้วย

ด้าน นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ กล่าวว่า นโยบายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนภารกิจและการดำเนินงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน โดยมุ่งเน้นการมีสุขภาพที่ดีถือเป็นเรื่องสำคัญในการดำรงชีวิตของประชาชน ซึ่งในปัจจุบันกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องได้กำหนดให้องค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นได้เข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินการในงานด้านสาธารณสุขมากขึ้นตามแผนปฏิบัติการและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งเป็นหน่วยบริการระดับปฐมภูมิและหน่วยปฏิบัติการอำนวยการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เข้ามาสังกัด อบจ.กระบี่ นอกจากนี้ อบจ.กระบี่ ยังได้เสริมสร้างความเข้มแข็งของการดำเนินงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ด้วยการผสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ในการดูแลประชาชนในพื้นที่กระบี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกระบี่ในการดำเนินงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ผ่านงานประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับชาติ ครั้งที่ 10 ซึ่งกระบี่เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้

นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในนามของจังหวัดกระบี่ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับชาติ ครั้งที่ 10 ที่มีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยจังหวัดกระบี่จะได้จัดเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วประเทศ ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือน ไม่ว่าจะเป็นการจัดระบบอำนวยความสะดวกด้านคมนาคม การรักษาความปลอดภัย และการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง

วันที่ 20 – 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2569 สพฉ. และ อบจ.กระบี่ ขอเชิญพี่น้อง อปท. ผู้ปฏิบัติการ และผู้ที่สนใจ เข้าร่วมงานการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 10 ที่ จ.กระบี่ เป็นเจ้าภาพ เพื่อพัฒนาเครือข่ายและองค์ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินร่วมกัน