วันที่ 10 ตุลาคม 2566 เวลา 14.00 น. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงาน OTOP ชวนชิม อิ่มอร่อยทั่วไทย ครั้งที่ 6 โดยมี นางสาวณัฐนิช อินทสระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน ผู้ตรวจราชการกรม คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน ผู้ประกอบการ OTOP และประชาชนผู้สนใจ เข้าร่วมงาน ณ บริเวณชั้นใต้ดิน ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม กล่าวว่า ขอชื่นชมในการจัดงาน OTOP ชวนชิม อิ่มอร่อยทั่วไทย ครั้งที่ 6 ในครั้งนี้ ภายใต้ความร่วมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต คณะกรรมการ OTOP ชวนชิม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ผลักดันให้มีการจัดงานนี้ขึ้น ซึ่งได้ดำเนินการเป็นครั้งที่ 6 โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแม้แต่บาทเดียว แต่มีจุดมุ่งหมายที่จะจัดงาน เพื่อให้ผู้ที่มาเลือกซื้อ เลือกชิมผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย และยังจะเป็นการสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และผู้ประกอบการ OTOP ชวนชิม ให้มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย และขอเชิญชวนท่านผู้มีเกียรติ พี่น้องประชาชนชาวปทุมธานีมาช่วยกันสนับสนุนสินค้า OTOP จากภูมิปัญญาของพี่น้องชาวไทย และเลือกชิมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงของแต่ละจังหวัด ที่มาจำหน่ายในศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต ตลอด 9 วันนี้ เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แล้วยังจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ OTOP ของจังหวัดต่าง ๆ ด้วย
ด้าน นางสาวณัฐนิช อินทสระ กล่าวต่อว่า งานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ OTOP และอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงของจังหวัด เพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และอาหารชวนชิม สร้างการเรียนรู้ให้กับผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP และเพิ่มศักยภาพผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP และ OTOP ชวนชิม ด้านการบริหารจัดการ ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 6 ดำเนินการระหว่างวันที่ 7-15 ตุลาคม 2566 รวม 9 วัน ณ บริเวณชั้นใต้ดิน ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต และคณะกรรมการ OTOP ชวนชิม ซึ่งดำเนินการโดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ มีผู้เข้าร่วมจำหน่าย จำนวน 78 ราย คาดว่าจะมียอดจากการจำหน่ายสินค้าในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000,000 บาท ที่จะทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน อันจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งต่อไป